งานเคลียร์ริ่ง ราคากันเอง เขตประเวศ
"กัปตันพุฒิพงศ์" เผยความคืบหน้า อู่ตะเภา "UTA" ลุยสำรวจพื้นที่ เร่งคัดเลือกผู้ออกแบบ อาคารผู้โดยสาร-ศูนย์กลางการขนส่งทางบก ยันเดินหน้า แผนงานตามกำหนด คาดตอกเข็มต้นปี 65 "บีทีเอส" เผยดึงพันธมิตรระดับโลกออกแบบสนามบิน ศึกษาพัฒนาธุรกิจนอนแอร์โร พื้นที่ 1 พันไร่ ปั้นเมืองการบิน
โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบิน ภาคตะวันออกเป็น "โปรเจคแห่งปี" ที่หลายฝ่ายจับตามองความคืบหน้า เพราะเป็นหนึ่งในโครงสร้างพื้นฐาน หลักสำคัญของเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เพื่อยกระดับสนามบินอู่ตะเภาเป็น "สนามบินนานาชาติเชิงพาณิชย์หลักแห่งที่ 3" เชื่อมสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิด้วยรถไฟความเร็วสูง
ตามแผนดำเนินการของบริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด หรือ UTA ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโครงการฯ จะเริ่มก่อสร้างในต้นปี 2565 ใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี พร้อมเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ในปี 2568 และครบอายุสัญญาร่วมทุนในปี 2615 มูลค่าการร่วมลงทุน 290,000 ล้านบาท
นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)หรือ BA กล่าวกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ในฐานะคณะผู้บริหาร บริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด หรือ UTA ว่า ความคืบหน้าโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก บริษัทฯ เข้าสำรวจพื้นที่เพื่อเตรียมการแล้ว หลังจากจัดส่งแผนแม่บทตามที่กำหนดในสัญญาร่วมลงทุนโครงการ เพื่อกำหนดตำแหน่งและจุดเชื่อมโยงของโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ตามที่กำหนดในสัญญาร่วมลงทุน
เริ่มก่อสร้างต้นปี 65
สำหรับงานที่จะเริ่มดำเนินการตามแผนในปี 2564 กำลังคัดเลือก ผู้ออกแบบอาคารผู้โดยสาร รวมถึงศูนย์กลางการขนส่งทางบก ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะออกแบบเมืองการบินด้วย เพื่อให้แนวคิดของทั้งโครงการสอดคล้องกัน โดยคาดว่าใช้เวลา 4-5 เดือน เพื่อให้ได้รายละเอียดของงานออกแบบ
การคาดการณ์จำนวนผู้โดยสาร บริษัทฯ ได้คำนึงถึงปัจจัยด้านโควิด-19 แล้ว โดยได้ศึกษาและใช้ข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการบิน อาทิ องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) รวมถึงหน่วยงานภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจมาประยุกต์ใช้ในการปรับการคาดการณ์จำนวนผู้โดยสาร ซึ่งจะนำไปปรับใช้ออกแบบอาคารผู้โดยสารและวางแผนสิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการ
"บริษัทฯ ยังคงดำเนินงานตามแผนงานที่กำหนดไว้ ซึ่งคาดว่าจะมีการออกหนังสือการส่งมอบพื้นที่เพื่อเริ่มการก่อสร้างในต้นปี 2565 ส่วนเรื่องการลงทุนในระยะแรก บริษัทฯ ได้ยื่นคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนโครงการสนามบินพาณิชย์ และมีแผนที่จะยื่นคำขอสำหรับโครงการอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการลงทุน"
ยื่นแผนแม่บท ส.ค.63
รายงานข่าวจากบริษัทบริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด ระบุว่า เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2563 ได้ประกอบพิธีอัญเชิญเสามงคลเพื่อเป็นปฐมฤกษ์ในการสร้างอาคารสำนักงาน ณ พื้นที่สร้างอาคารสำนักงานใหญ่ของบริษัทฯ ตั้งอยู่เลขที่ 99 หมู่ 14 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ โดยก่อสร้างเป็นอาคาร 3 ชั้น มีกำหนดเปิดทำการในปี 2564
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 17 ส.ค.2563 บริษัทฯ ได้ส่งแผนแม่บทโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกให้ สกพอ.นับเป็นความคืบหน้าสำคัญที่แสดงถึงเจตนารมณ์ของบริษัทฯ ในการเดินหน้า เต็มที่ในการพัฒนาโครงการสนามบินอู่ตะเภา ซึ่งเป็นแกนหลักสำคัญต่อการพัฒนาอีอีซีและยกระดับประเทศเป็นศูนย์กลางการบินภูมิภาค
สำหรับแผนแม่บทจะแสดงจุดเชื่อมโยงโครงการกับโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภคสำคัญเพื่อให้ สกพอ.ประสานงานกับหน่วยงานรัฐ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาโครงการได้เต็มที่ โดยมีรายละเอียดสำคัญ คือ การยืนยันแนวเส้นทางของรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน, การแสดง แนวเส้นทางระบบโครงข่ายถนนเชื่อมต่อสู่สนามบินและเมืองการบิน, การแสดงข้อมูลของรันเวย์ที่ 2 ที่กองทัพเรือเป็นเจ้าของโครงการ และการแสดงแนวเส้นทางของระบบสาธารณูปโภคไฟฟ้า ประปา และระบบเชื้อเพลิงเข้าสู่สนามบิน
ดึงระดับโลกร่วมออกแบบ
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และกรรมการ บริษัทอู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด กล่าวว่า หลังจากส่งแผนแม่บทให้ สกพอ.เป็นที่เรียบร้อย ต่อไปจะ ดำเนินการตามแผนแม่บท ซึ่งประกอบไปด้วย การลงพื้นที่สำรวจอย่างละเอียด รวมไปถึงจัดทำแผนปฏิบัติงานและดำเนินการออกแบบท่าอากาศยานอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก ให้เห็นภาพการพัฒนาอย่างละเอียด
"สกพอ.มีเวลาให้เราออกแบบทำแผน 365 วัน ตอนนี้เราก็อยู่ระหว่างดำเนินการในรายละเอียดของแผน ยังเดินหน้าตามแผนแม่บทกำหนดไว้ทุกอย่าง ขณะนี้ได้พันธมิตรเพิ่มเติมเข้ามาช่วยออกแบบดีไซน์ภายในท่าอากาศยาน ซึ่งเป็นนักออกแบบระดับโลกมีชื่อเสียงระดับโลก จะเข้ามาช่วยออกแบบอาคารให้สวยงาม ทันสมัย ตอบโจทย์ผู้ใช้บริการ โดยคาดว่าต้นปี 2564 จะแถลงข่าวความคืบหน้าของการดำเนินงาน"
ทั้งนี้ เมื่อดำเนินการจัดทำแผนรายละเอียดการพัฒนาตามแผนแม่บทกำหนดไว้แล้วเสร็จ จะได้รับหนังสืออนุญาตเริ่มงานก่อสร้าง (NTP) ในช่วงต้นปี 2565 ใช้เวลาก่อสร้างสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกราว 3 ปีแล้วเสร็จ เพื่อเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ต้นปี 2568 หลังจากนั้นจะใช้เวลา 47 ปีในการบริหาร และครบกำหนดสัญญาร่วมทุนต้นปี 2615
"บีทีเอส"ศึกษานอนแอร์โร
นอกจากการลงรายละเอียดออกแบบท่าอากาศยานอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกแล้ว ขณะนี้บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) พันธมิตรใน UTA ยังอยู่ระหว่างศึกษาแผนพัฒนาในส่วนของกิจการที่นอกเหนือธุรกิจการบิน (นอนแอร์โร) เพื่อวางรูปแบบการพัฒนา โดยคาดว่าจะใช้พื้นที่ต่อยอด ธุรกิจนอนแอร์โรราว 1 พันไร่ มูลค่าหลักแสนล้านบาท ประกอบด้วย อสังหาริมทรัพย์ แอร์พอร์ตซิตี้ ฟรีเทรดโซน และคาร์โก้
ทั้งนี้ การศึกษาธุรกิจนอนแอร์โร คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในต้นปี 2565 เพื่อให้ทันต่อการรับหนังสือ NTP และเริ่มเดินหน้าเข้าพื้นที่ก่อสร้าง โดยแผนดังกล่าว บีทีเอสได้รับมอบหมายจาก UTA ให้ทำการศึกษา แต่ยังไม่ได้รับมอบหมายให้เข้าไปลงทุน ดังนั้นเมื่อศึกษาแล้วเสร็จจะต้องนำเสนอ และหารือร่วมกับ UTA เพื่อพิจารณารูปแบบการลงทุน และรายงานแผนดังกล่าวไปยัง สกพอ.เพื่อพิจารณาอนุมัติ
กองทัพเรือเร่ง"อีเอชไอเอ"
รายงานข่าวจาก สกพอ.ระบุว่า ความคืบหน้าการเตรียมพื้นที่ก่อสร้างสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ขณะนี้กองทัพเรือทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ของรันเวย์ที่ 2 ครบถ้วน โดยรันเวย์มีระยะทาง 3,500 เมตร มูลค่าก่อสร้าง 1.7 หมื่นล้านบาท คาดการณ์ว่าจะผ่านการอนุมัติ EHIA และเริ่มงานก่อสร้างไม่เกินปลายปี 2564
สำหรับโครงการพัฒนาสนามบิน อู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก โดยกองทัพเรือเปิดให้ยื่นข้อเสนอวันที่ 21 มี.ค.2562 แต่การคัดเลือกต้องสะดุดเพราะบริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด (กลุ่มซีพี) ยื่นฟ้องศาลปกครองว่า คณะกรรมการคัดเลือกโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกกระทำการไม่ชอบในกฎหมาย กรณีไม่รับซองข้อเสนอกล่องที่ 6 ด้านข้อเสนอทางเทคนิคและแผนธุรกิจ และข้อเสนอกล่องที่ 9 ด้านราคา เพราะเอกชนยื่นเอกสารไม่ทันเวลา 15.00 น.
สำหรับการพิจารณาของศาลได้อ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 10 ม.ค.2563 ให้สิทธิ์บริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด ร่วมประมูลต่อ โดยประกาศผลข้อเสนอด้านราคาเมื่อวันที่ 30 ม.ค.2563 ให้กิจการร่วมค้าบีบีเอสยื่นข้อเสนอการเงิน 3.05 แสนล้านบาท ได้สิทธิพัฒนาและมีพันธมิตร คือ บริษัทการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 45% ,บริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 35% และบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 20% และมีผู้บริหารสนามบินนานาชาตินาริตะเป็นพันธมิตรพัฒนาสนามบิน
รับเคลียริ่งพื้นที่ เคลียร์ริ่งพื้นที่รกร้าง ทำความสะอาด ภายนอก ภายใน ทุกรูปแบบ ทุกขนาด โดยทีมวิศวกรและช่างมืออาชีพประสบการณ์สูง ให้คำแนะนำ รับเคลียร์ริ่งพื้นที่ ปรับหน้าดินรกร้าง รับถมที่ดิน รับทุบรื้อถอน รับทิ้งขยะ เศษวัสดุก่อสร้าง พื้นที่รกร้าง ต้นไม้ปกคลุมหนาแน่น ปรับภูมิทัศน์ใหม่เพื่อใช้สอยพื้นที่ เคลียร์ริ่งถนน เคลียร์ริ่งที่ดิน รวมถึงดูแล ประเมินราคา ตามงบประมาณ รับประกันงาน ทุกพื้นที่ ทั่วจังหวัด ทั่วประเทศ ในราคาถูกที่เป็นกันเอง
รู้จักเรา STD Serve รับเคลียริ่งพื้นที่
- ทีมงานมีประสบการณ์ตรง ด้านเคลียริ่งพื้นที่มากกว่า 20 ปี
- เดินทางวัดหน้างานสำรวจเบื้องต้นฟรีทั่วจังหวัดเพื่อให้ลูกค้าได้รับ งานที่ตรงความต้องการก่อนตัดสินใจ
- รับเคลียริ่งพื้นที่ตึก บ้าน อาคาร บ้านเรือน ทุกชนิด ทุกขนาด เล็ก-ใหญ่ ทั่วประเทศ ในราคาถูกที่เป็นกันเอง
- ใช้วัสดุอุปกรณ์ที่มีคุณภาพสูง เพื่อให้ได้งานที่ลูกค้าถูกใจ
- ราคาถูก รับประกันคุณภาพ พร้อมการบริการหลังการขาย
- บริการคุณภาพด้วย STD Serve บริษัทรับเคลียริ่งพื้นที่
พร้อมรับงานทุกขนาด งานบ้านทั่วไป งานโครงการ งานรับเหมา และอื่นๆ สนใจทำความสะอาด เคลียริ่งพื้นที่ ต้องที่ STD Serve บริษัทรับเคลียริ่งพื้นที่ เท่านั้น
ติดต่อเจ้หนิง




บริษัทรับเคลียริ่งพื้นที่เขตประเวศ
บริษัทรับเคลียริ่งพื้นที่ดอกไม้
บริษัทรับเคลียริ่งพื้นที่ประเวศ
บริษัทรับเคลียริ่งพื้นที่สวนหลวง
บริษัทรับเคลียริ่งพื้นที่หนองบอน